รัสเซีย เตรียมเปิด ‘ปฏิบัติการโจมตี’ ช่วงฤดูร้อน
เมื่อวานนี้ 25 ก.พ. ซึ่งก็คือ 1 วันหลังสงครามยูเครนครบ 2 ปี ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนได้ออกมาแถลงต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับทิศทางของสงครามในปี 2024
ระหว่างงานแถลงข่าวเกี่ยวกับอนาคตของสงครามยูเครนในปี 2024 ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ได้ออกมาเปิดเผยจำนวนทหารยูเครนที่เสียชีวิตไปจากการสู้รบในสงครามตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลยูเครนไม่เคยออกมาเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้มาก่อน
“ปูติน” ออกกฤษฎีกาจูงใจชาวต่างชาติ ได้สัญชาติรัสเซีย หากร่วมกองทัพสู้รบในยูเครน
รัสเซีย เตรียมรุกคืบหวังครองแคว้นโดเนตสก์-ลูฮันสก์
ประธานาธิบดียูเครน ระบุว่า ยอดทหารที่เสียชีวิตมีตัวเลขอยู่ที่ 31,000 นาย แต่ไม่ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่ามีทหารที่บาดเจ็บจากการสู้รบกี่นาย เนื่องจากเกรงว่าฝ่ายรัสเซียจะนำตัวเลขไปประเมินจำนวนทหารที่ยังประจำอยู่ที่แนวรบได้
ส่วนสาเหตุที่ทางการยูเครนออกมาเปิดเผยตัวเลขทหารที่เสียชีวิต ประธานาธิบดีเซเลนสกีระบุว่าเป็นไปเพื่อคานข้อมูลที่ฝ่ายรัสเซียปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ รัสเซียเคยออกมาอ้างว่าฝ่ายยูเครนเสียทหารไปจากการสู้รบทั้งหมด 60,000 นาย
อย่างไรก็ดี ตัวเลขทหารยูเครนที่เสียชีวิตที่ฝ่ายสหรัฐฯ เคยประเมินไว้สูงกว่าตัวเลขที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีระบุ โดยเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2023 เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เคยออกมาเปิดเผยว่า ทหารฝ่ายยูเครนเสียชีวิตไปแล้วประมาณ 70,000 นาย ส่วนทหารที่บาดเจ็บอยู่ที่ราว 120,000 นาย ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Global firepower ระบุว่า ในปี 2023 กองทัพยูเครนมีกำลังพลทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 500,000 นาย
นอกจากจำนวนทหารฝ่ายยูเครนที่เสียชีวิตไปจากการสู้รบแล้ว ประธานาธิบดีเซเลนสกียังระบุด้วยว่า มีทหารฝ่ายรัสเซียที่เสียชีวิตไปแล้ว 180,000 นาย ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เคยประเมินไว้เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วว่า ตัวเลขทหารรัสเซียที่เสียชีวิตน่าจะอยู่ที่ประมาณ 120,000 นาย ส่วนทหารบาดเจ็บมีประมาณ 170,000-180,000 นาย
ส่วนกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรเคยออกมาระบุไว้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า ทหารรัสเซียบาดเจ็บและเสียชีวิตรวมอยู่ที่ประมาณ 350,000 นาย ข้อมูลจาก Global firepower ระบุว่า จำนวนทหารรัสเซียที่ประจำการอยู่ในปี 2023 อยู่ที่ประมาณ 1.3 ล้านนาย
การออกมาเปิดเผยยอดทหารที่เสียชีวิตไปจากสงครามของประธานาธิบดีเซเลนสกี เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยูเครนกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างมากที่แนวรบ หลังต้องเปลี่ยนไปใช้ยุทธศาสตร์ตั้งรับเชิงรุกเพื่อรักษาตำแหน่งที่มั่นจากการรุกคืบของรัสเซีย
ในช่วงระยะหลัง กองทัพยูเครนเริ่มประสบปัญหากำลังพลเหนื่อยล้า อีกทั้งยังขาดแคลนเครื่องกระสุนและอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างหนัก หลังจากชาติพันธมิตรรายสำคัญอย่างสหรัฐฯ ยังคงล่าช้าในการผ่านร่างกฎหมายความช่วยเหลือเพิ่มเติมมูลค่า 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่ยูเครน เหล่านี้คือสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ยูเครนกลายเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำในสมรภูมิรบในขณะนี้ โดยเฉพาะที่แนวรบทางภาคตะวันออกในแคว้นโดเนตสก์ ที่คาดว่ากองทัพรัสเซียกำลังค่อยๆ พยายามรุกคืบเพื่อขยับแนวรบต่อ หลังจากที่สามารถยึดเมืองอัฟดีฟกาได้เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ก.พ.
อย่างไรก็ดี สาเหตุที่กองทัพยูเครนขาดแคลนกระสุน ไม่ได้มาจากเพียงความชะงักงันในการผ่านความช่วยเหลือของสหรัฐฯ เท่านั้นรุสเตม อูเมรอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครนได้ออกมาเปิดเผยระหว่างงานแถลงข่าวว่าร้อยละ 50 ของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ชาติพันธมิตรตะวันตกให้คำมั่นสัญญาว่าจะส่งมอบให้นั้น มาถึงมือของยูเครนล่าช้ากว่าที่ตกลงไว้ และความล่าช้าจะส่งผลให้ยูเครนเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการสู้รบ
ที่ผ่านมา นอกเหนือจากสหรัฐฯ พันธมิตรตะวันตกรายหนึ่งที่ให้คำมั่นต่อยูเครนว่าจะส่งกระสุนปืนใหญ่ให้คือสหภาพยุโรป โดยจะสัญญาว่าจะส่งกระสุนปืนใหญ่จำนวน 1 ล้านนัดให้แก่ยูเครนภายในเดือนมี.ค.2024 อย่างไรก็ตามเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้ออกมาเปิดเผยว่า จะสามารถส่งมอบกระสุนปืนใหญ่ให้แก่ยูเครนทันตามเวลาได้เพียงแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น ขณะที่ส่วนที่เหลือ จะไม่สามารถส่งมอบให้ได้จนกว่าจะถึงช่วงปลายปีนี้
ก่อนหน้านี้ เคยมีสัญญาณออกมาจากชาติพันธมิตรตะวันตกว่า กำลังการผลิตกระสุนปืนใหญ่ขณะนี้ไม่เพียงพอและไม่ทันต่อความต้องการใช้กระสุนของยูเครนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกียังระบุอีกด้วยว่า ความล่าช้าของการส่งมอบอาวุธยุทโธปกรณ์ คือสาเหตุส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้ปฏิบัติการโต้กลับทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของยูเครนเมื่อปีที่แล้วเริ่มต้นช้ากว่าที่วางแผน ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาไม่บรรลุเป้าหมายและไม่เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยูเครนมีแผนที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมทางการทหารภายในประเทศเพื่อยกระดับการพึ่งพาตนเองในระยะยาว รวมถึงมีแผนที่จะผลิตโดรนประเภท FPV หรือโดรนขนาดเล็กติดกล้อง ปีละ 1 ล้านลำ ซึ่งกองทัพยูเครนมักนำมาดัดแปลงใช้เป็นโดรนพลีชีพหรือโดรนสอดแนม
อีกประเด็นหนึ่งที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวถึงคือ อนาคตของสงครามจะเป็นอย่างไรต่อไปในปีนี้ โดยระบุว่า อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับยูเครน โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคมและเดือนเม.ย.
ยิ่งไปกว่านั้น ประธานาธิบดีเซเลนสกียังเปิดเผยอีกว่า รัสเซียมีแผนเตรียมเปิดปฏิบัติการบุกโจมตียูเครนครั้งใหญ่ในช่วงฤดูร้อน หรือไม่เช่นนั้นก็อาจจะเป็นช่วงปลายเดือนพฤษภาคม แต่ไม่ได้ระบุอย่างเจาะจงว่ารัสเซียจะเปิดปฏิบัติการจากทิศไหน
ประธานาธิบดียูเครน ยังอ้างอีกด้วยว่า ปฏิบัติการบุกโจมตีของรัสเซียทางภาคตะวันออกครั้งล่าสุด ซึ่งนำไปสู่การยึดครองเมืองอัฟดีฟกา ไม่ได้นำมาสู่ผลลัพธ์ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงใดๆ ตั้งแต่เดือนต.ค.ที่ผ่านมา รัสเซียเป็นฝ่ายเปิดปฏิบัติการบุกโจมตียูเครนจากทางภาคตะวันออกที่แคว้นโดเนตสก์ และพยายามรุกคืบอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาเกือบ 5 เดือนแล้ว
ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีสัญญาณว่ากองทัพรัสเซียอาจเปิดปฏิบัติการบุกโจมตียูเครนจากทางภาคใต้อีกทิศ โดยมีรายงานการยกระดับการโจมตีบริเวณหมู่บ้านโรโบตือนีในแคว้นซาโปริซเซีย ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในแนวรบหลักในปฏิบัติการโต้กลับของยูเครนเมื่อปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีเซเลนสกีไม่ได้เปิดเผยว่า ฝ่ายยูเครนมีแผนยุทธศาสตร์สงครามอย่างไรบ้างในปีนี้ โดยระบุเพียงว่า ยูเครนมีแผนที่ชัดเจน แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้อีกหนึ่งคำถามที่ตามมาคือ นอกจากการจบสงครามด้วยชัยชนะทางการทหาร การเจรจาสันติภาพจะยังคงเป็นไปได้หรือไม่ในอนาคต
ในระหว่างงานแถลงข่าว อีกประเด็นหนึ่งที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีออกมากล่าวถึงคือ การเจรจาแผนสันติภาพ โดยระบุว่า เขาหวังว่าการประชุมสุดยอดที่สวิตเซอร์แลนด์จะเป็นเจ้าภาพเพื่อให้ผู้นำโลกร่วมหารือเกี่ยวกับแผนสันติภาพที่ยูเครนเป็นผู้เสนอ จะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ และร่างแผนที่ผ่านการหารือจะถูกนำเสนอต่อรัสเซียในภายหลัง
ขณะที่อันดรี เยอร์มัก หัวหน้าสำนักประธานาธิบดียูเครนระบุว่า การประชุมสุดยอดสันติภาพจะจัดขึ้นสองรอบ โดยในรอบที่สอง อาจจะเชิญผู้แทนจากรัสเซียเข้าร่วมการประชุมด้วย
นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากทำสงครามรุกรานยูเครนในปี 2022 มีความพยายามเจรจาทางการทูตเพื่อหาข้อตกลงยุติสงครามหลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วงสามเดือนแรกของสงคราม อย่างไรก็ตาม การเจรจาไม่มีผลทางบวกออกมา เนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีหลักการที่ต่างกันมาก โดยยูเครนไม่ยอมรับคำขาดของรัสเซีย ที่ต้องการให้รับรองเอกราชของแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งมีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนโปรรัสเซีย และให้รับรองว่าไครเมียเป็นของรัสเซีย
หลังการเจรจาสันติภาพหยุดชะงักไป ประธานาธิบดีเซเลนสกีก็ได้เสนอ “สูตรสันติภาพ 10 ประการ” หรือ 10-point Peace Formula ออกมาเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2022 ต่อที่ประชุม G20 ใจความสำคัญหลักของสูตรสันติภาพยูเครนก็คือ รัสเซียต้องถอนทหารทั้งหมดออกจากยูเครน และจะต้องฟื้นคืนบูรณภาพทางดินแดนของยูเครนกลับคืนตามเดิมทั้งหมด
หมายความว่ารัสเซียต้องคืนคาบสมุทรไครเมียที่เคยผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนอย่างผิดกฎหมายเมื่อปี 2014 รวมถึง 4 แคว้นทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของยูเครนที่ผนวกไปในปี 2022 นั่นก็คือ โดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซาโปริซเซีย และเคอร์ซอน
นอกจากนี้ สูตรสันติภาพยังเสนอให้มีการลงโทษรัสเซียในฐานะผู้ก่อสงคราม และต้องให้รัสเซียชดใช้ค่าปฏิกรรมสงครามเช่นกัน หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า การพูดคุยในที่ประชุมสุดยอดว่าด้วยแผนสันติภาพจะเป็นการต่อยอดจากสิ่งที่ยูเครนเสนออยู่แล้ว
โดยประธานาธิบดีเซเลนสกีระบุเพียงแค่ว่า ยูเครนจะเสนอข้อเสนอที่ “รัสเซียสามารถยอมรับได้ว่า เป็นฝ่ายแพ้สงครามและยอมรับว่าการก่อสงครามเป็นเรื่องผิดพลาด” อย่างไรก็ดี ทางการรัสเซียเคยออกมาปฏิเสธการเจรจายุติสงครามที่อยู่บนเงื่อนไขของยูเครน
อีกความท้าทายหนึ่งที่ยูเครนกำลังเผชิญนอกเหนือจากการขาดแคลนกระสุนคือ ระบบป้องกันภัยทางอากาศที่เริ่มอ่อนแรงและจรวดยิงสกัดที่เริ่มร่อยหรอ การโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ที่แคว้นโดเนตสก์ทางภาคตะวันออกของยูเครน
โดยหน่วยงานของยูเครนในภูมิภาคโดเนตสก์รายงานว่า รัสเซียได้ยิงระเบิดนำวิถีรุ่น KAB-250 โจมตีเข้าที่สถานีรถไฟคอสเตียนติเนียฟกา ซึ่งมีที่ตั้งห่างออกไปไม่ไกลจากแนวรบมากนัก จากนั้นอีกสองชั่วโมงต่อมา รัสเซียก็ได้ยิงขีปนาวุธ S-300 จำนวน 4 ลูกโจมตีเข้ามาที่เมือง การโจมตีครั้งนี้ส่งผลให้อาคารหลักของสถานีรถไฟเสียหาย รวมถึงอาคารบ้านเรือนในละแวกใกล้เคียง
เพื่อนบ้านยึดบ้านอากู๋ ครอบครองปรปักษ์ เครียดคิดสั้น-ผูกคอลาโลก!
ผลบอลเอฟเอ คัพ รอบ 5 แมนซิตี้ ถล่ม ลูตัน 6-2 ลิ่วรอบ 8 ทีม
พายุฤดูร้อน! ประกาศเตือนฉบับที่ 8 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง